มิชลินและโมโตจีพี (MotoGP™) ร่วมมือกันจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์กรังด์ปรีซ์ระดับโลกขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ในขณะที่ทางฝั่งสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ซึ่งได้รับเลือกให้เป็นสนามแข่งขันนั้นก็มีการเตรียมความพร้อมเพื่อเปิดสนามต้อนรับพีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ (PTT Thailand Grand Prix) อย่างเต็มรูปแบบ
มิชลินมุ่งหน้าสู่สนามแข่งขันระยะทางยาว 4,554 เมตร พร้อมกับล้อยางที่ได้ทำการคัดสรรมาอย่างดีหลังจากที่มีการทดสอบก่อนจะเปิดฤดูกาลแข่งขันในสนามแห่งนี้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยการทดสอบก่อนเปิดการแข่งขันนี้ทำให้มิชลินได้เรียนรู้สภาพของสนามและจากข้อมูลที่ได้รับ ยางรุ่น MICHELIN Power Slick ได้รับเลือกสำหรับใช้ในการแข่งขันครั้งนี้ บุรีรัมย์เป็นสถานที่จัดใหม่และจากข้อมูลที่เปรียบเทียบในการทดสอบ ทำให้มีการตัดสินใจเลือกใช้ยางล้อหลังแบบที่ถูกผลิตขึ้นมาเพื่อใช้ต่อสู้กับความร้อนโดยเฉพาะ สำหรับการไปเยือนสนามนี้เป็นครั้งแรกนั้น มิชลินได้นำยางล้อหลังไปให้เลือก 4 แบบ โดยหวังว่าจะช่วยให้นักขี่และทีมทั้งหมดสามารถดึง “ขุมพลัง” จากรถจักรยานยนต์ของพวกเขาออกมาได้อย่างเต็มศักยภาพมากที่สุด ยางที่นำไปมีทั้งแบบ soft หนึ่งรุ่น แบบ medium สองรุ่น และแบบ hard อีกหนึ่งรุ่น ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นยางแบบไม่สมมาตรโดยมีด้านขวาที่แข็งกว่าเพื่อให้เหมาะกับเลย์เอาท์ของสนามที่มีโค้งขวาถึง 7 โค้ง ในขณะที่มีโค้งซ้ายอยู่เพียง 5 โค้ง สำหรับยางล้อหน้ามิชลินได้เลือกนำยางแบบสมมาตรไป 3 แบบ คือแบบ soft แบบ medium และแบบ hard
สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต เปิดให้บริการในปี 2014 และถูกใช้เป็นสถานที่จัดซูเปอร์ไบค์เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ (World SBK) มาตั้งแต่ปี 2015 ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกนั้นนับว่าทันสมัยมากและมีอัฒจันทร์แกรนด์สแตนด์รอบสนามที่จะช่วยให้แฟนๆ มากกว่า 100,000 คนที่คาดว่าจะเดินทางเข้ามาชมสามารถมองเห็นการแข่งขันได้อย่างชัดเจน สำหรับสภาพอากาศในประเทศไทยในช่วงเดือนตุลาคมนั้นมีความไม่แน่นอนเพราะยังอยู่ในฤดูมรสุม ซึ่งสภาพอากาศที่เปียกชื้นก็อาจส่งผลกระทบกับการแข่งขันอย่างมาก มิชลินเองคำนึงถึงปัจจัยสำคัญอันนี้ด้วย ดังนั้นยางรุ่น MICHELIN Power Rain ก็อาจจะมีโอกาสถูกนำมาออกมาใช้ในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน ซึ่งจะมีทั้งยางหน้าแบบ soft และแบบ medium และยางหลังแบบ medium ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นยางแบบสมมาตร จะมีแค่ยางล้อหลังแบบ soft เท่านั้นที่มีหน้ายางแบบไม่สมมาตรโดยมีด้านขวาที่แข็งกว่าเหมือนกับยางประเภท สลิค (slicks)
โมโตจีพีจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงสุดสัปดาห์ด้วยการแข่งขันแบบการฝึกซ้อมจำนวนสองรอบที่จะจัดขึ้นในวันศุกร์ ซึ่งในส่วนของแพดดอคทั้งหมดของสนามจะมีบรรยากาศครึกครื้นเต็มที่ สำหรับตารางการแข่งขันในวันเสาร์จะมีช่วงซ้อมอีกสองรอบ ก่อนที่จะใช้เวลาที่ทำได้มาตัดสินตำแหน่งกริดสตาร์ทของวันจริง มิชลินและบรรดาผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดจะลงสนามแข่งจริงในวันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม และครั้งนี้เป็นครั้งแรกในปฏิทินการแข่งขันที่จะเริ่มแข่งกันในเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (08.00hrs CEST, 07.00hrs BST และ 06.00UTC) ซึ่งจะเป็นเวลาที่การแข่งขันจำนวน 26 รอบสนามจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
ปิเอโร ทารามัสโซ่ ผู้จัดการฝ่ายมอเตอร์สปอร์ต ผลิตภัณฑ์ 2 ล้อ ของมิชลิน กล่าวว่า “เรามีการทดสอบก่อนเปิดฤดูกาลแข่งขันที่จังหวัดบุรีรัมย์และได้รับข้อมูลที่สำคัญมากๆ โดยเราได้นำยางล้อหลังซึ่งได้รับการออกแบบเฉพาะสำหรับแทร็กนี้ไปใช้ทดสอบเหมือนกับที่เราเคยทำที่ออสเตรียและออสเตรเลีย เนื่องจากสนามแห่งนี้มีความแตกต่างจากสนามอื่นๆ และต้องการยางชนิดพิเศษ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่จริงๆ และเพิ่งมีการตัดสินใจหลังจากที่มีการทดสอบไป แต่ก่อนหน้านั้นเราได้เลือกยางที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ ซึ่งเราได้เลือกนำยางแบบ medium 2 ชนิดไปลองว่าแบบไหนจะเหมาะกับแทร็ก มากที่สุดและจะได้นำมาช่วยประกอบการตัดสินใจในปีหน้าด้วย และเพื่อให้นักแข่งทั้งหมดได้มีตัวเลือกของยางที่ดีที่สุดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการขับขี่ของพวกเขา แต่ทั้งนี้แผนทั้งหมดสำหรับสนามแห้งคงจะใช้ไม่ได้แล้ว เพราะว่าเป็นฤดูมรสุมในประเทศไทยและก็มีโอกาสที่ฝนจะตกด้วย เราหวังว่าจะไม่ แต่ถ้าเกิดมันเป็นอย่างนั้น เราก็ยังมียางรุ่น MICHELIN Power Rain ซึ่งน่าจะเหมาะกับสภาพอากาศมากกว่า เราตั้งตารอการมาเยือนประเทศไทยของโมโตจีพีเป็นครั้งแรกนี้มากและหวังว่าจะมีคนเข้ามาดูกันเยอะๆ เราก็อยากจะทำให้พวกเขาได้ดูการแข่งขันที่ดีที่สุดและมิชลินเองก็จะมีส่วนสำคัญกับงานนี้อย่างแน่นอน”