บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมยานยนต์ระดับพรีเมียม ด้วยการยกทัพรถยนต์และมอเตอร์ไซค์จากบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 28 มีนาคม ถึง 8 เมษายน 2561 ที่ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพค เมืองทองธานี นำขบวนโดยบีเอ็มดับเบิลยู X2 กับดีไซน์สปอร์ตทรงพลังและปราดเปรียวตามสไตล์รถยนต์ในตระกูล X การผสมผสานสมรรถนะเต็มพิกัดเข้ากับความสง่างามเหนือระดับ ในบีเอ็มดับเบิลยู M4 CS และบีเอ็มดับเบิลยู M5 โฉมใหม่ พร้อมด้วยบีเอ็มดับเบิลยู 530i Touring M Sport ที่มอบทั้งความสะดวกสบายและสไตล์การขับขี่แบบสปอร์ตโฉบเฉี่ยว
นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด ยังมาเสริมทัพด้วยมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่อย่าง บีเอ็มดับเบิลยู K 1600 Grand America บีเอ็มดับเบิลยู S 1000 RR HP Line และโฉมใหม่ของทั้งบีเอ็มดับเบิลยู F 800 R, S 1000 R, S 1000 XR และอีกมากมาย ในส่วนของมินิ ก็เตรียมต้อนรับแฟน ๆ ด้วยรถยนต์ตัวแรงในตระกูล จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสนามแข่ง พร้อมด้วยพรีวิวมินิรุ่นพิเศษที่จะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้อย่าง มินิ คลับแมน Yours Edition และสำหรับด้านนวัตกรรม ทั้งผู้ชื่นชอบรถยนต์และรถมอเตอร์ไซค์จะได้สัมผัสกับประสบการณ์การเชื่อมต่ออัจฉริยะแบบครบวงจร ระหว่างผู้ขับขี่ ยานยนต์ และโลกภายนอกเป็นครั้งแรก ด้วยเทคโนโลยี ConnectedDrive และ ConnectedRide
มร.คริสเตียน วิดมานน์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่สำคัญสำหรับเรา ในการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของบีเอ็มดับเบิลยูอย่างต่อเนื่อง ในการขับเคลื่อนไปสู่อนาคตของยานยนต์ สำหรับงานในปีนี้ซึ่ง จัดขึ้นภายใต้แนวคิด ‘ปฏิวัติทุกการเคลื่อนไหว’ หรือ ‘Revolution in Motion’ ไม่เพียงสื่อถึงความมุ่งมั่นของอุตสาหกรรมยานยนต์ในการสร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นว่านวัตกรรมอันล้ำสมัยเหล่านี้อยู่ในยานยนต์ต่าง ๆ ที่โลดแล่นบนท้องถนนทั่วไทยแล้ว ความหลากหลายของรถยนต์และมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ ๆ รวมถึงเทคโนโลยี ConnectedDrive ที่เราเปิดตัวในงานนี้ ตอกย้ำความทุ่มเทของเราในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่แบบผจญภัย ผู้บริหารที่นิยมความหรูหราและสะดวกสบาย รวมถึงผู้ที่รักการขับขี่ในทุกรูปแบบ”
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ยังคว้ารางวัล “Car & Bike of the Year 2018” มาครองถึง 16 รางวัล ในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 นี้ ทั้งสำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู มินิ และบีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราดหลากหลายรุ่น
“ความสำเร็จของเราสำหรับรางวัล “Car & Bike of the Year 2018″ นี้ เป็นการยืนยันถึงความเป็นผู้นำของเราในด้านการออกแบบและเทคโนโลยีการขับขี่ที่เหนือชั้นและเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าความหลากหลายของยนตรกรรมรุ่นใหม่ที่เปิดตัวในปี 2561 นี้ จะสานต่อกระแสตอบรับในทางบวกจากลูกค้าในไทยที่มีให้แก่เราตลอดหลายปีที่ผ่านมา” มร. คริสเตียน วิดมานน์ กล่าวเสริม
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย นำโดย มร. คริสเตียน วิดมานน์ (ซ้ายสุด) ประธาน ยกทัพรถยนต์และมอเตอร์ไซค์จากบีเอ็มดับเบิลยู มินิ และ บีเอ็มดับเบิลยู มอเตอร์ราด เข้าร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39 นำขบวนโดยการเปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู X2 กับแฟชั่นโชว์สุดตระการตาจากดีไซน์เนอร์แถวหน้าของเมืองไทย ตอกย้ำดีไซน์สปอร์ตทรงพลังและปราดเปรียวตามสไตล์รถยนต์ในตระกูล X
จากซ้ายไปขวา
มร. คริสเตียน วิดมานน์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39
คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39
มร. ลาร์ส นีลเซ่น ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย
มร. บียอร์น แอนทอนส์สัน ประธานกรรมการบริหาร บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย
ไฮไลท์รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2018
บีเอ็มดับเบิลยู X2 sDrive20i M Sport X
ราคาจำหน่าย: 2,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู X2 สมาชิกใหม่ล่าสุดในตระกูล X ของบีเอ็มดับเบิลยู ฉีกภาพลักษณ์แบบเดิม ๆ ด้วยดีไซน์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความสปอร์ตทรงพลังตั้งแต่แรกเห็น โดดเด่นสะดุดทุกสายตา คล่องตัว ปราดเปรียวในทุกเส้นทาง
จากบีเอ็มดับเบิลยู X4 และบีเอ็มดับเบิลยู X6 มาสู่บีเอ็มดับเบิลยู X2 ที่มาพร้อมรูปทรงโฉบเฉี่ยวและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ผสานรูปลักษณ์สไตล์สปอร์ตคูเป้เข้ากับความแข็งแกร่งทรงพลังในแบบฉบับบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล X โดยเป็นครั้งแรกที่กระจังหน้าไตคู่อันเป็นเอกลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู มีรูปทรงส่วนฐานด้านล่างกว้างกว่าด้านบน สร้างมิติให้รถดูกว้างและโฉบเฉี่ยวมากขึ้น ตอกย้ำความสปอร์ตด้วยช่องดักอากาศลวดลายหกเหลี่ยม นอกจากนี้ บีเอ็มดับเบิลยู X2 ยังเป็นรุ่นแรกในตระกูล X ที่มีตราของบีเอ็มดับเบิลยูประดับอยู่บนเสา C-pillar ทั้งสองข้าง ในดีไซน์ที่คล้ายคลึงกับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูระดับตำนานอย่างบีเอ็มดับเบิลยู 2000 CS และบีเอ็มดับเบิลยู 3.0 CSL
บีเอ็มดับเบิลยู X2 มาพร้อมชุดแต่งรอบคัน M Sport X สร้างความสะดุดตาด้วยสเกิร์ตและซุ้มล้อสี Frozen Grey ตัดกับสีตัวถังอย่างลงตัว สร้างมิติความกว้าง และย้ำถึงเอกลักษณ์ความแข็งแกร่ง ท่อไอเสียแบบคู่ยังสื่อถึงความทรงพลังของเครื่องยนต์ ในขณะที่ล้ออัลลอยน้ำหนักเบาลาย Y-spoke ในสไตล์ M ขนาด 19 นิ้ว สะกดทุกสายตาด้วยเฟรมรอบซุ้มล้อรูปทรงเหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ในสี Frozen Grey เช่นกัน
บีเอ็มดับเบิลยู X2 sDrive20i M Sport X ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo 4 สูบ ให้กำลังสูงสุด 192 แรงม้า ที่ 5,000-6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 280 นิวตัวเมตร ที่ 1,350-4,600 รอบต่อนาที เมื่อจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติแบบ Steptronic คลัตช์คู่ 7 จังหวะ มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายใน 7.7 วินาที ที่ความเร็วสูงสุด 227 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
โหมดการขับขี่รูปแบบต่าง ๆ สามารถปรับเปลี่ยนได้ผ่านปุ่ม Driving Experience Control โดยเลือกได้ระหว่างโหมด COMFORT สำหรับการขับขี่แบบปกติ โหมด ECO PRO ประหยัดพลังงาน หรือโหมด SPORT เพื่อการตอบสนองที่ฉับไวและการเข้าโค้งอย่างเฉียบคม
อีกหนึ่งไฮไลท์อันโดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู X2 คือหลังคากระจกแบบ Panorama สองส่วน ส่วนหน้าสามารถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า สร้างความรู้สึกโล่งโปร่งสะดวกสบายด้วยแสงสว่างที่เพียงพอภายในรถ พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ รวมถึงหน้าจอ Control Display ขนาด 8.8 นิ้ว ปุ่มควบคุม iDrive พร้อมระบบสัมผัส ระบบแสดงข้อมูลการขับขี่ที่กระจกหน้าฝั่งคนขับ (BMW Head-Up Display) วิทยุพร้อมการเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth และช่อง USB การเชื่อมต่อโทรศัพท์ผ่าน Bluetooth ช่อง USB และแท่นสำหรับอุปกรณ์เสริม
บีเอ็มดับเบิลยู X2 มาในสีใหม่สุดเร้าใจ Galvanic Gold metallic และ Misano Blue metallic พร้อมชุดแต่งภายใน M Sport X ที่มอบความสปอร์ตเต็มพิกัดด้วยเบาะนั่งในวัสดุผ้า Micro Hexagon และ Alcantara สีดำแอนทราไซต์ ส่วนพื้นที่เก็บของที่มีความจุสูงสุด 470 ลิตร ช่วยให้บีเอ็มดับเบิลยู X2 สร้างความพึงพอใจและสะดวกสบายในทุกการขับขี่ของชีวิตประจำวัน ทั้งยังพร้อมลุยในทุกสถานการณ์
บีเอ็มดับเบิลยู 530i Touring M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย: 4,539,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 530i Touring M Sport ใหม่ เป็นรถยนต์หรูที่มอบประโยชน์ใช้สอยแบบรอบด้านด้วยพื้นที่มากมายภายในห้องโดยสาร พร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และระบบการเชื่อมต่อล้ำสมัย ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2 ลิตร เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้แรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร กำลังสูงสุด 185 กิโลวิตต์/252 แรงม้า และสามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลา 6.5 วินาที และมีความเร็วสูงสุดถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ด้วยมิติของตัวรถที่ยาวขึ้น 36 มิลลิเมตร (4,942 มิลลิเมตร) กว้างขึ้น 8 มิลลิเมตร (1,868 มิลลิเมตร) และสูงขึ้น 10 มิลลิเมตร (1,498 มิลลิเมตร) เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า บีเอ็มดับเบิลยู 530i Touring M Sport ใหม่มาพร้อมรูปลักษณ์ที่ทันสมัยกว่าเดิม ด้วยไฟหน้าที่เชื่อมต่อเข้ากับกระจังหน้าทรงไตคู่อย่างกลมกลืน และระบบ Active Air Flap แผ่นปิดด้านในกระจังหน้าไตคู่ ที่ได้รับการพัฒนาเพื่อประสิทธิภาพในการระบายอากาศที่ดียิ่งขึ้น เสริมความสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยท่อไอเสียทั้งสองด้าน
บีเอ็มดับเบิลยู 530i Touring M Sport ใหม่ สามารถบรรจุของได้มากกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 30 ลิตร ด้วยความจุสัมภาระถึง 570 – 1,700 ลิตร อุปกรณ์พื้นฐานอื่น ๆ ของตัวรถยังรวมถึงระบบเปิด-ปิดบานประตูท้ายอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า ระบบปลดล๊อคประตูอัจฉริยะ (Comfort access system) ให้สามารถเปิดปิดประตูท้ายได้ด้วยการยื่นเท้าไปใต้ท้ายรถโดยไม่ต้องใช้มือ และเพิ่มความสามารถในการบรรจุของด้วยเบาะที่นั่งด้านหลังแบบพับได้ 40:20:40
บีเอ็มดับเบิลยู 530i Touring M Sport ใหม่ ยังมาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อประโยชน์ในการใช้งานสูงสุด ด้วยระบบอัตโนมัติต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกผู้ขับขี่ เช่น เซ็นเซอร์ควบคุมระยะการจอดด้านหน้าและหลัง (Park Distance Control) กล้องแสดงภาพด้านหลัง (Rear view camera) ระบบควบคุมความเร็วคงที่ พร้อมฟังก์ชั่นช่วยลดความเร็ว (Cruise control) และระบบป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง (Side impact protection) อีกทั้งยังมีจอแสดงผลภาพสี LCD พร้อมหน้าจอสัมผัส ขนาด 10.25 นิ้ว ปุ่มควบคุม iDrive พร้อมการสั่งงานด้วยระบบสัมผัส ระบบการสั่งงานอัจฉริยะ ผ่านการเคลื่อนไหวของมือ (BMW gesture control) หน้าปัดมาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอลเต็มรูปแบบ ขนาด 12.3 นิ้ว และการเชื่อมต่อและชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่
ราคาจำหน่าย: 11,439,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ เป็นรถยนต์รุ่นพิเศษในตระกูล M ที่ผลิตขึ้นในจำนวนจำกัด พร้อมสานต่อตำนานแห่งสมรรถนะของบีเอ็มดับเบิลยู M ด้วยสไตล์การขับขี่สุดสปอร์ตและประสิทธิภาพที่เหนือระดับ แต่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบายสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยขุมพลัง 6 สูบ ความจุ 3.0 ลิตร ด้วยเทคโนโลยี BMW M TwinPower Turbo พัฒนาสมรรถนะการส่งกำลังสูงสุด 460 แรงม้า ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 3.9 วินาที ความเร็วสูงสุด 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ M แบบคลัตช์คู่ 7 จังหวะ พร้อมระบบ Drivelogic เพื่อการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วภายในเสี้ยววินาที ด้วยแป้นเปลี่ยนเกียร์ paddle shift บนพวงมาลัย
เพื่อประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ดีที่สุดในทุกสภาวะ บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ มาพร้อมระบบควบคุมเสถียรภาพการขับขี่ (DSC) ที่สามารถทำงานในโหมดพิเศษ M Dynamic (MDM) เพื่อความเพลิดเพลินสูงสุดในการขับขี่ และระบบเฟืองท้าย Active M ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้ 3 โหมดด้วยกัน (Comfort, Sport and Sport+) เพียงแค่สัมผัสปุ่ม เพื่อปรับให้ตัวรถตอบสนองต่อทุกการควบคุมในแบบที่ต้องการ สอดรับกับลักษณะของเส้นทางอย่างลงตัว
รูปลักษณ์ของบีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ สะท้อนถึงความสปอร์ตเร้าใจ ด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นจากกระจังหน้าที่มาคู่กับช่องดักอากาศขนาดใหญ่ 3 ช่อง เข้ากันกับไฟหน้า LED คู่ดีไซน์ทันสมัย กระโปรงหน้าและหลังคาทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีคุณสมบัติความแข็งแกร่งและน้ำหนักเบาพิเศษ ดีไซน์ด้วยเส้นสายสไตล์คูเป้ โฉบเฉี่ยวด้วยชุดแต่งแบบ M และเสริมความดุดันด้วยรูปทรงซุ้มล้ออันทรงพลัง ที่สร้างอารมณ์สุดเร้าใจได้ แม้ในยามที่ตัวรถยังหยุดนิ่งอยู่
ภายในของบีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่ สร้างลุคสปอร์ตเต็มพิกัด ด้วยเบาะที่นั่งน้ำหนักเบาแบบ M Sport หุ้มหนังแท้สลับ Alcantara พนักพิงหลังปรับความกว้างได้ เข็มขัดนิรภัยลาย M พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนัง Alcantara ดีไซน์ M พร้อมก้านเปลี่ยนเกียร์ ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู M4 CS ใหม่จะมีให้เลือกเป็นเจ้าของได้ในสีพิเศษจาก BMW Individual
บีเอ็มดับเบิลยู M5 ใหม่
ราคาจำหน่าย: 13,339,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
ครั้งแรกของบีเอ็มดับเบิลยู M5 ที่มาพร้อมกับ M xDrive ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่สร้างมาตรฐานใหม่ด้านสมรรถนะให้กับตลาดรถซีดานประสิทธิภาพสูง โดยบีเอ็มดับเบิลยู M5 เจนเนอเรชั่นที่ 6 นี้ มอบประสิทธิภาพความคล่องตัวสูงสุดด้วยการเน้นส่งกำลังขับเคลื่อนจากล้อหลัง ควบคู่กับการเพิ่มกำลังส่งจากล้อหน้าในกรณีที่พละกำลังขับเคลื่อนจากล้อหลังไม่เพียงพอและต้องการแรงฉุดลากที่เพิ่มขึ้น แม้ในสภาวะการขับขี่ด้วยความเร็วสูง ระบบขับเคลื่อน M xDrive ก็ทำให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมขุมพลังบีเอ็มดับเบิลยู M5 ใหม่นี้ ได้อย่างแม่นยำและง่ายดายยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกตั้งค่าลักษณะการขับได้อย่างหลากหลายตามความต้องการถึง 5 โหมดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโหมดการขับขี่ด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพแบบไดนามิก (หรือ DSC ที่สามารถเลือกเปิดหรือปิดระบบ DSC หรือเลือกการขับขี่ด้วยโหมด M Dynamic) และยังสามารถเลือกการขับขี่ด้วยระบบ M xDrive ซึ่งแบ่งเป็นโหมด 4WD, 4WD Sport และ 2WD ที่ให้ผู้ขับขี่ได้สัมผัสความแรงเร้าใจด้วยความคล่องตัวสูงสุดบนท้องถนน รวมทั้งระบบเฟืองท้าย Active M ที่มอบเสถียรภาพการกระจายกำลังอย่างเต็มสมรรถนะ ป้องกันการลื่นไถลเมื่อเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง โดยช่วยลดความแตกต่างของความเร็วรอบระหว่างล้อหลัง
อีกหนึ่งเอกลักษณ์ความสปอร์ตอันโดดเด่นของบีเอ็มดับเบิลยู M5 ใหม่นี้ คือปุ่ม M1 และ M2 สีแดงสองปุ่ม ซึ่งอยู่ติดกับระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับเปลี่ยนการตั้งค่าระบบต่าง ๆ ตามที่ต้องการได้ถึง 2 แบบเพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าระบบ M xDrive ระบบควบคุมเสถียรภาพแบบไดนามิก (DSC) ระบบเครื่องยนต์ ระบบเกียร์ ระบบระบายอากาศ ระบบการควบคุมพวงมาลัยไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งการตั้งค่ารูปแบบของการแสดงผลบน Head-Up Display
บีเอ็มดับเบิลยู M5 ใหม่ ทรงพลังด้วยเครื่องยนต์ M TwinPower Turbo แบบ V8 ความจุ 4.4 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 441 กิโลวัตต์ / 600 แรงม้า ที่ 5,600 – 6,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 5,600 รอบต่อนาที มาคู่กับเกียร์อัตโนมัติ M Steptronic 8 จังหวะ พร้อมระบบ Drivelogic สามารถเร่งความเร็วจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 3.4 วินาที และ 0 – 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 11.1 วินาที โลดแล่นด้วยความเร็วสูงสุดที่ควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิคส์ไว้ที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย: 3,799,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
หลังจากที่ได้เปิดตัวบีเอ็มดับเบิลยู X3 ใหม่ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แฟน ๆ ชาวไทยจะได้สัมผัสประสบการณ์สปอร์ตยิ่งขึ้นของบีเอ็มดับเบิลยู X3 เจนเนอเรชั่นที่ 3 กับบีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่ ที่ยังคงเอกลักษณ์ความแข็งแกร่งบนท้องถนนและลุคสปอร์ตปราดเปรียวไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยรุ่น M Sport นี้มาพร้อมกับล้ออัลลอย M ลาย Double-spoke ขนาด 19 นิ้ว เสริมความสะดุดตาด้วยชุดตกแต่งรอบคันดีไซน์ M Aerodynamics และขอบหน้าต่างสีดำเงา ภายในรถตกแต่งด้วย Aluminium Rhombicle trim finishers ตัดกับ Pearl Chrome พร้อมพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นหุ้มหนังแบบ M Sport พร้อมแป้นเปลี่ยนเกียร์ และยังเสริมความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วยระบบช่วยนำรถเข้าที่จอดอัตโนมัติ และกล้องมองหลัง เพื่อการขับขี่ที่ปลอดภัยและแม่นยำในทุกเส้นทาง
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่ยังมาพร้อมช่วงล่าง M Sport ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลทรงพลัง 4 สูบ เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบ Steptronic ให้กำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์ / 190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ส่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลา 8 วินาที ที่ความเร็วสูงสุด 213 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อัตราสิ้นเปลือง น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ย 17.6 กิโลเมตรต่อลิตร และระดับการปล่อย CO2 เฉลี่ยที่ 150 กรัมต่อกิโลเมตร
บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport ใหม่ มาพร้อมปุ่มควบคุม iDrive และสั่งงานด้วยระบบสัมผัส จอแสดงผลภาพความละเอียดสูงขนาด 10.25 นิ้ว ระบบการสั่งงานอัจฉริยะ BMW Gesture Control ที่สามารถควบคุมระบบนำทางและระบบบันเทิงสื่อสาร ผ่านการเคลื่อนไหวของมือ และการสั่งงานด้วยเสียง (Intelligent Voice Control Assistance) ที่ให้ผู้ขับขี่สามารถสั่งงานโดยใช้ภาษาพูดในชีวิตประจำวันแทนที่การใช้ชุดคำสั่งที่กำหนดมา นอกจากนี้ ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารยังสามารถเพลิดเพลินกับระบบเสียงรอบทิศทาง Harman Kardon เพื่อการเดินทางที่สุนทรีย์ยิ่งขึ้น
บีเอ็มดับเบิลยู 118i M Sport (M Performance Edition)
ราคาจำหน่าย: 2,099,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard)
บีเอ็มดับเบิลยู 118i M Sport รถยนต์ 5 ประตูที่กลับมาพร้อมความเร้าใจมากยิ่งขึ้นในรุ่น M Performance Edition เพิ่มลุคสปอร์ตอันเป็นเอกลักษณ์ของเวอร์ชั่น M Sport พร้อมเสริมชุดแต่งรอบคันดีไซน์ M และขอบหน้าต่างสีดำเงา รวมทั้งอุปกรณ์มาตรฐานอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ล้ออัลลอย M ขนาด 18 นิ้ว ลาย Double-spoke สีดำ Jet Black และระบบไฟส่องสว่างเมื่อปลดล็อก
บีเอ็มดับเบิลยู 118i M Sport (M Performance Edition) ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร เทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ที่กำลังสูงสุด 136 แรงม้า สามารถเร่งความเร็งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 8.7 วินาที ด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเฉลี่ย 20.0 กิโลเมตรต่อลิตร และระดับการปล่อย CO2 เฉลี่ย 118 กรัมต่อกิโลเมตร ช่วงล่างแบบ M Sport ยังช่วยเสริมสมรรถนะการขับขี่ที่ปราดเปรียวยิ่งขึ้นตามแบบฉบับของ M Performance
BMW ConnectedDrive: เชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัด เพื่ออิสระในการใช้ชีวิต
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย พร้อมมอบประสบการณ์การเชื่อมต่ออัจฉริยะแบบครบวงจร ระหว่างผู้ขับ ยานยนต์ และโลกภายนอก แก่ผู้ขับขี่ชาวไทยเป็นครั้งแรก ด้วย BMW ConnectedDrive บริการและแอพพลิเคชั่นเฉพาะบุคคล ให้ผู้ขับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูได้เพลิดเพลินกับฟีเจอร์ผู้ช่วยในการขับขี่ ข้อมูลและความบันเทิง รวมถึงการสัญจร เพื่อความสะดวกสบายและความปลอดภัยระดับพรีเมียม ในทุกวินาทีที่อยู่ด้านหลังพวงมาลัย ผ่านแพลตฟอร์ม Open Mobility Cloud ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ดิจิตอลเข้ากับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูได้แบบไร้สาย ไม่ว่าจะด้วย iPhone หรือ Apple Watch
รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นใหม่เฉพาะบางรุ่นที่นำเข้าตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 เป็นต้นไป* จะมาพร้อมซิมการ์ดที่ติดตั้งไว้ในตัวรถ สำหรับใช้งานฟีเจอร์พื้นฐานของ BMW ConnectedDrive ซึ่งได้แก่ BMW Teleservices บริการที่ช่วยจัดการนัดหมายอัตโนมัติผ่านการแชร์ข้อมูลของรถยนต์กับศูนย์บริการบีเอ็มดับเบิลยูที่คุณต้องการ หรือผู้ขับขี่สามารถทำการติดต่อผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการของบีเอ็มดับเบิลยูด้วยตนเองผ่าน BMW Teleservice Call เพื่อนัดหมายการรับบริการล่วงหน้า พร้อมด้วย BMW Teleservice Battery Guard บริการที่คอยตรวจสอบระดับแบตเตอรี่และแจ้งเตือนผู้ขับขี่หากระดับพลังงานในแบตเตอรี่ลดลงต่ำกว่าระดับมาตรฐาน และอีกหนึ่งบริการพื้นฐานของ BMW ConnectedDrive คือ Intelligent Emergency Call ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ติดต่อกับศูนย์บริการฉุกเฉินของบีเอ็มดับเบิลยูทางโทรศัพท์เพียงแค่กดปุ่ม หรือในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ ระบบเซ็นเซอร์การชนจะส่งสัญญาณแจ้งตำแหน่งพิกัดรถโดยอัตโนมัติไปยังศูนย์บริการ เพื่อการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านทางจอ Control Display
ผู้ใช้งาน BMW ConnectedDrive สามารถเลือกเพิ่มบริการและแอพพลิเคชั่นตามความต้องการของตนได้ ผ่าน BMW ConnectedDrive Store โดยมีบริการและแอพพลิเคชั่นต่างๆ ดังนี้:
- Concierge Services: ที่สุดของการบริการกับผู้ช่วยส่วนตัวตลอด 24 ชั่วโมง ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านข้อมูลทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำร้านอาหาร หรือธนาคารที่อยู่ใกล้ที่สุด พร้อมแสดงเส้นทางไปยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการผ่านระบบนำทางภายในรถในทันที
- ระบบนำทางพร้อมข้อมูลการจราจรจาก Real-Time Traffic Information (RTTI) ที่สามารถแสดงข้อมูลสภาพการจราจรแบบนาทีต่อนาที ผ่านทั้งระบบนำทางภายในรถและแอพพลิเคชั่น BMW Connected
- Apple CarPlay Support: เข้าถึงฟีเจอร์และแอพพลิเคชั่นโปรดใน iPhone จากรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะฟังเพลง รับสายโทรศัพท์ หรือพูดคุยกับ Siri รวมถึงการใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ จากไอโฟน ผ่านการสัมผัสหน้าจอ ระบบควบคุม iDrive หรือระบบสั่งการด้วยเสียง
- Web Radio: ฟังเพลงโปรดผ่านวิทยุออนไลน์กว่าหมื่นสถานีจากทั่วโลก หรือเลือกฟังเพลงจากสถานีวิทยุส่วนตัวบนอินเตอร์เน็ตอย่าง Spotify ได้อย่างง่ายดายผ่านการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
- BMW Online: ติดตามข้อมูลข่าวสารและสภาพอากาศล่าสุดจาก RSS feed และข้อมูลสภาพอากาศประจำวันโดยละเอียด รวมถึงพยากรณ์อากาศล่วงหน้า 4 วัน และยังมีบริการ Online Search ที่สามารถค้นหาตำแหน่งที่ตั้งของสถานที่ต่าง ๆ และส่งข้อมูลไปยังระบบนำทางในรถโดยอัตโนมัติ
- Remote Services: เข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ของรถยนต์ เช่น ระยะทางหรือสถานะของหน้าต่างและประตูจากโทรศัพท์หรือเว็บไซต์ BMW ConnectedDrive ซึ่งบริการนี้ยังสามารถควบคุมระบบปรับอากาศและระบบไฟจากระยะไกลได้ และเพื่อการเชื่อมต่ออย่างไร้ขีดจำกัดมากยิ่งขึ้นในทุกที่และทุกเวลา ผู้ใช้งานยังสามารถเชื่อมต่อบริการ BMW ConnectedDrive เข้ากับแอพพลิเคชั่น BMW Connected เพื่อใช้งานเทคโนโลยีล้ำสมัยของบีเอ็มดับเบิลยูได้อย่างเต็มประสิทธิภาพผ่านทาง iPhone หรือ Apple Watch ซึ่ง BMW Connected มาพร้อมบริการที่สามารถอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งาน ได้แก่
- BMW Connected Send To Car: ส่งข้อมูลเกี่ยวกับตำแหน่งที่ตั้งของจุดหมายปลายทางที่ค้นหาไว้ทางอินเตอร์เน็ตหรือสมาร์ทโฟน หรือข้อมูลนัดหมายการประชุมจากปฏิทิน ไปยังระบบนำทางในรถยนต์ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย
- Time-To-Leave Notification: แอพพลิเคชั่น BMW Connected จะแจ้งเตือนเวลาที่ควรออกเดินทางผ่านทางสมาร์ทโฟน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้งานจะเดินทางถึงที่หมายได้ทันเวลา โดยระบบจะคำนวณเวลาในการเดินทางจากตำแหน่งของรถและสภาพการจราจรในช่วงเวลานั้น
- BMW Connected Remote 3D View: แสดงภาพพื้นที่โดยรอบของรถที่จอดอยู่ด้วยภาพสามมิติ โดยสามารถเลือกมุมมองต่างๆ ได้ผ่านทาง iPhone
ในระยะแรก BMW ConnectedDrive จะมาพร้อมรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูรุ่นนำเข้าตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 เป็นต้นไป ได้แก่ บีเอ็มดับเบิลยู 630d GT M Sport, บีเอ็มดับเบิลยู X2 xDrive20i M Sport X, บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d xLine, บีเอ็มดับเบิลยู X3 xDrive20d M Sport, บีเอ็มดับเบิลยู 430i Coupe Luxury, บีเอ็มดับเบิลยู 430i Coupe M Sport, บีเอ็มดับเบิลยู 430i Convertible Luxury, บีเอ็มดับเบิลยู 430i Convertible M Sport, บีเอ็มดับเบิลยู M760Li xDrive และบีเอ็มดับเบิลยูตระกูล M โดยลูกค้าจะสามารถเพลิดเพลินกับความสะดวกสบายและประสบการณ์การเชื่อมต่อระหว่างขับขี่ที่เหนือชั้นเป็นระยะเวลาสูงสุด 3 ปี และสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ทางเลือกทั้งหมดใน BMW ConnectedDrive Store หลังจากนั้น ลูกค้าสามารถเพลิดเพลินกับอิสระในการสร้างสรรค์สุดยอดประสบการณ์การขับขี่เฉพาะบุคคล โดยเลือกสมัครใช้แต่ละแอพพลิเคชั่นหรือบริการต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมคลิกที่ลิ้งค์ https://www.bmw.co.th/th/topics/fascination-bmw/connected-drive/overview.html
ไฮไลท์รถยนต์มินิในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ 2018
พรีวิวสุดพิเศษ กับ มินิ คลับแมน Yours Edition
มินิ ประเทศไทย นำเสนอรถยนต์รุ่นพิเศษ มินิ คลับแมน Yours Edition ที่เตรียมเปิดตัวให้เห็นอย่างเต็มรูปแบบผ่านช่องทางดิจิทัล ลูกค้าที่สนใจสามารถเลือกเป็นเจ้าของมินิรุ่นพิเศษคันนี้ได้ด้วยวิธีสั่งจองแบบไม่ธรรมดา ที่มินิจะเปิดเผยอย่างเป็นทางการเร็ว ๆ นี้
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่
ราคาจำหน่าย: 3,548,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ รถยนต์เอนกประสงค์ พรีเมียม คอมแพ็ค ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แบบสปอร์ตได้อย่างสมบูรณ์แบบ สะท้อนจิตวิญญาณรถแข่งโกคาร์ทอันเป็นเอกลักษณ์ของมินิ ด้วยเครื่องยนต์ทรงพลัง ระบบช่วงล่าง และชุดแอโรไดนามิกส์ ในแบบฉบับจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อหรือ ALL4 และขุมพลังจากเทคโนโลยี มินิ Twin Power Turbo มอบความเร็วเร้าใจด้วยกำลังสูงสุด 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า สามารถเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ในเวลา 6.5 วินาที ในความเร็วสูงสุด 234 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมแรงบิดสูงสุด 350 นิวตันเมตร ที่ 1,450 – 4,500 รอบต่อนาที อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ที่ 14.2 กิโลเมตรต่อลิตร ระดับการปล่อย CO2 อยู่ที่ 161 กรัมต่อกิโลเมตร ทำงานร่วมกับระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะแบบสปอร์ตพร้อมแป้น paddle shift บนพวงมาลัย มอบสมรรถนะรวดเร็วทันใจ ขับขี่ได้คล่องตัวทุกความท้าทายในทุกสภาพท้องถนน
ดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นของมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ บ่งบอกถึงสมรรถนะความสปอร์ตและความปราดเปรียว ล้ออัลลอยแบบ John Cooper Works Course Spoke ขนาด 19 นิ้ว และเอกลักษณ์จานเบรคสีแดง พร้อมด้วยโลโก้จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ และชุดแอโรไดนามิกส์ มอบความรู้สึกทรงพลังแก่รถยนต์มินิเจเนอเรชั่นใหม่นี้
ภายในมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน ใหม่ ยังพกพาชุดแต่งในตระกูลจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ขนานแท้ที่ทำให้การขับขี่ในวันธรรมดาเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจราวกับอยู่ในสนามแข่ง ด้วยที่นั่งแบบยกสูงและดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจจากรถแข่ง ทั้งพวงมาลัยหนังแท้และเบาะสปอร์ตสไตล์จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ที่ให้ความรู้สึกนุ่มนวลแม้ระหว่างขับขี่ด้วยความเร็วสูง ระบบแสดงผล Head-Up Display อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ขับขี่โดยแสดงผลข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่รบกวนการมองถนน เสริมสมรรถนะการขับขี่ในระดับรถแข่งพันธุ์แท้ ด้วยความคลาสสิกสไตล์มินิอย่างแท้จริง
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คลับแมน
ราคาจำหน่าย: 3,548,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คลับแมน สมรรถนะแบบสปอร์ตจากมินิ กับเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ที่มาพร้อมกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อหรือ ALL4 เจเนอเรชั่นล่าสุด ขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ทำงานด้วยเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ที่ให้กำลังสูงสุดถึง 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า โดยมีแรงบิดสูงสุดที่ 350 นิวตันเมตร สามารถเร่งความเร็วจาก 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายในเวลาเพียง 6.3 วินาที รวมถึงเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport 8 สปีด ให้คุณขับขี่ได้คล่องตัว ตอบสนองฉับไวทุกโจทย์การขับขี่ พร้อมท้าทายบนท้องถนน ขุมพลังใหม่ของมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ ถือเป็นเครื่องยนต์ที่ทรงพลังที่สุดที่มินิเคยออกมาสู่ตลาด
นอกจากนี้ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คลับแมน ยังมีเอกลักษณ์รูปแบบเฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็น ชุดแต่งแอโรไดนามิกส์ ล้ออัลลอยแบบ John Cooper Works Course Spoke two-tone ขนาด 19 นิ้ว พร้อมดีไซน์และแต่งในสไตล์ John Cooper Works ทั้งภายนอกภายใน พวงมาลัยหนังแท้พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่น รวมถึงเบาะสปอร์ตพิเศษ John Cooper Works ระบบแสดงผล Head-Up Display และจอขนาด 8.8 นิ้วที่อยู่บริเวณกลางแผงคอนโซลรถมาพร้อมระบบสัมผัส (ทัชสกรีน) ใหม่ล่าสุด
มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์
ราคาจำหน่าย: 3,410,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา MSI Standard)
สัมผัสสมรรถนะเร้าใจในสไตล์รถแข่งโกคาร์ทแบบฉบับของมินิ กับมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ ที่สืบทอดประสิทธิภาพจากสนามแข่งของจอห์น คูเปอร์มาได้อย่างสมบูรณ์แบบ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ 3 ประตู ยังคงขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเบนซินขนาด 2.0 ลิตร ส่งพละกำลังสูงสุดที่ 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า จากเทคโนโลยี MINI TwinPower Turbo ทำงานคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic Sport 8 สปีด ส่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรภายใน 6.1 วินาที
ความสปอร์ตของมินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์ ยังโดดเด่นด้วยล้ออัลลอยแบบ John Cooper Works Cup Spoke two-tone ขนาด 18 นิ้ว ตัดกับจานเบรกสีแดง เสริมลุคด้วยท่อไอเสียจอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แบบคู่ที่อยู่กึ่งกลางของท้ายรถ พร้อมให้ความรู้สึกเร้าใจด้วยเบาะหนังหรือผ้า Dinamica สีดำตัดกับแดง
ข้อเสนอพิเศษในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39
ลูกค้าบีเอ็มดับเบิลยูที่จองรถยนต์ภายในงานและรับส่งมอบรถยนต์ภายในวันที่ 30 เมษายน 2561 จะได้รับสิทธิประโยชน์ ดังนี้
1. ซื้อรถทุกรุ่น (ยกเว้นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด) จะได้รับบัตรของขวัญเติมน้ำมัน
– มูลค่า 70,000 บาท สำหรับรถยนต์ซีรี่ส์ 7 บีเอ็มดับเบิลยู i และ บีเอ็มดับเบิลยู M
– มูลค่า 50,000 บาท สำหรับรถยนต์รุ่นอื่นๆ ยกเว้นรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด
2. สำหรับรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด จะได้รับการยกระดับโปรแกรมการรับประกันจาก BSI Standard เป็น BSI Ultimate พร้อมด้วยระยะเวลาบำรุงรักษา 5 ปี / 100,000 กิโลเมตร และโปรแกรม
การรับประกันระยะเวลา 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
สำหรับลูกค้ามินิที่ทำการจองรถยนต์ภายในงาน และรับส่งมอบรถยนต์ภายในเดือนเมษายน 2561
จะได้รับสิทธิประโยชน์ ดังนี้
1. การยกระดับ MSI (MINI Service Inclusive) จาก 3 ปี หรือ 60,000 ก.ม. เป็น 5 ปี หรือ 100,000 ก.ม. (ยกเว้นมินิ คันทรีแมน)
2. บริการ MINI FREEDOM CHOICE ในราคาเริ่มต้นเพียง 36,600 บาท/เดือน สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์มินิ คลับแมน คูเปอร์ เอส ให้สิทธิประโยชน์ด้วยการรับประกันมูลค่ารถยนต์มินิในอนาคตตั้งแต่วันแรกของระยะเวลาสัญญา พร้อมเปิดทางเลือกที่ยืดหยุ่นในการจัดการกับรถยนต์มินิเมื่อสิ้นสุดสัญญา
3. สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ผ่านทาง มินิ ไฟแนนเชียล เซอร์วิส รับฟรีร่ม MINI
จากซ้ายไปขวา
1. มร. บียอร์น แอนทอนส์สัน ประธานกรรมการบริหาร บีเอ็มดับเบิลยู ไฟแนนเชียล เซอร์วิส ประเทศไทย
2. คุณจาตุรนต์ โกมลมิศร์ รองประธานจัดงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 39
3. มร. คริสเตียน วิดมานน์ ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย
4. คุณปรีชา นินาทเกียรติกุล ผู้จัดการทั่วไป มินิ ประเทศไทย