BMW USA ได้ทำลายสถิติ Guinness World Record ก่อนหน้านี้ เพื่อให้ได้ดริฟท์รถที่ยาวนานที่สุดถึง 8 ชั่วโมง ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากสถิติก่อนหน้านี้ที่ 89.55 ไมล์ โดยวนรอบวงกลมขนาดเล็กด้วยระยะทาง 232.5 ไมล์ (372 กิโลเมตร)
โดยในการสร้างสถิติครั้งนี้ BMW USA เลือกนักขับมืออาชีพอย่าง Johan Schwartz ผู้ซึ่งเคยสร้างสถิติดริฟท์ต่อเนื่องยาวที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 2013 ด้วยรถ M5 F10 ซึ่งในครั้งนั้น เขาสามารถทำได้ 51.3 ไมล์ แต่ต่อมาก็ถูกล้มสถิติโดย Toyota 86 ซึ่งในปีที่ผ่านมา ซึ่งใช้เวลา 6 ชั่วโมงและได้ระยะทาง 102.5 ไมล์
ในการทำสถิติครั้งนี้ ทาง BMW เลือกใช้รถ M5 ซึ่งแน่นอนว่ากินน้ำมันจุกว่า Toyota 86 ดังนั้นพวกเขาจึงต้องคิดหาวิธีว่าจะทำอย่างไรให้วิ่งได้นานกว่า 6 ชั่วโมง ซึ่งวิธีของพวกเขานั้นอยู่เหนือความคาดคิดของใครหลายคนไปมาก
วิธีการก็คือ ติดตั้งท่อเติมน้ำมันพิเศษที่ประตูหลังของรถ แล้วต่อเชื่อมไปเข้า ส่งต่อไปยังถังน้ำมันหลัก แล้วการจะเติมนั้น ก็ต้องให้ M5 อีกคัน ซึ่งทำหน้าที่เป็นรถบรรทุกน้ำมันขับออกจากพิทไปดริฟท์ตีคู่ขนาน แล้วพยายามดริฟท์ให้ใกล้มากพอที่หน่วยกล้าตาย (ยื่นตัวออกมาจากรถ) จะเอาหัวเสียบเติมน้ำมันแรงดันสูงเข้าเสียบ ล็อค และทำการเติมน้ำมันได้
เทคนิคที่ว่านี้ก็คล้ายกับการเติมน้ำมันกลางอากาศของพวกเครื่องบินบรรทุกน้ำมันและเครื่องบินขับไล่ในระหว่างออกศึกนั่นเอง หลายคนอาจจะงงว่าทำไมไม่ใช้วิธีติดตั้งถังน้ำมันสำรองพร้อมปั๊ม ซึ่งก็น่าจะสะดวกกว่า แต่ลองคิดดูว่าถ้า BMW ไม่คิดอะไรแผลงๆ ผาดโผนแบบนี้ เราจะมีคลิปเด็ดให้ชมกันงั้นหรือ?
เทคนิคการเติมน้ำมันแบบนี้ มีความอันตรายพอสมควร เพราะถ้าหากรถเติมน้ำมันดริฟท์เข้าไปใกล้มากเกินไป คนเติมน้ำมันก็ต้องเอวอ่อนพอจะหลบได้ทันโดยที่ไม่ถูกรถสองคันเบียดเอาไว้ตรงกลาง ดูเหมือนไม่มีอะไรน่ากลัว แต่ถ้าใครได้ลองไปทำจริงๆ ก็คงอยากร้องเรียกหารถพยาบาลไว้ให้อุ่นใจกันทั้งนั้น
ตลอดระยะเวลาการดริฟท์ 8 ชั่วโมง รถเติมน้ำมันต้องวิ่งออกไปทำการ Mid-drift refuel ให้ทุกๆ 3 ชั่วโมงครึ่ง ในแต่ละครั้ง ปั๊มแรงดันสูงจะอัดน้ำมัน 18 US Gallon (ุ68 ลิตร) เข้าถังของรถคันที่ดริฟท์ โดยใช้เวลา 50 วินาที ระหว่างนั้นอาจมีการกระทบหรือเสียหลักให้ต้องถอนตัวกันบ้างแบบในคลิป แต่ผลสุดท้าย BMW USA ก็ประสบความสำเร็จในการสร้างสถิติโลก ดริฟท์โดยไม่หยุดเลยเป็นระยะทาง 372 กิโลเมตร มากกว่าสถิติเดิมกว่า 160 กิโลเมตร
ชมคลิปได้ข้างล่างนี้เลย
เบื้องหลังการถ่ายทำ